ภาคสงครามเลือด 1000 ปี ของ เคียวราคุ ชุนซุย

ในตอนที่เหล่าควินซี่ได้บุกมายังโซลโซไซตี้ครั้งแรกเคียวราคุได้สู้กับนักรบดวงดาราคนหนึ่งมีชื่อว่า โรเบิร์ต แอคคิวทรอน อักษร"N" โดยควินซี่มีข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถดาบฟันวิญญาณของยมทูตและสามารถช่วงชิงบังไคของเหล่ายมทูตได้จึงทำให้เหล่ายมทูตเสียเปรียบเป็นอย่างมากเคียวราคุกล่าวกับแอคคิวทรอนเกี่ยวกับเรื่องที่ควินซี่ขโมยบังไคเหล่ายมทูตไว้ว่า "ถึงแบบนั้นพวกเจ้าก็ไม่ใช่ศัตรูที่จะจัดการได้โดยที่ไม่ใช้บังไค"หลังจากพูดเสร็จแอคคิวทรอนก็เข้ามาโจมตีเคียวราคุจนสูญเสียตาไปข้างหนึ่งและขณะที่การต่อสู้ได้ดำเนินไปอยู่นั่นหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะเองก็ได้เข้าสู่แนวหน้าสนามรบโดยแรงดันวิญญาณของหัวหน้าใหญ่นั้นทำให้คนที่อยู่ในเซเรเทย์รับรู้ถึงแรงดันวิญญาณอันมหาศาลได้โดยตัวเคียวราคุเองก็สัมผัสได้ถึงแรงดันวิญญาณนั้นและได้กล่าวออกมาประมาณว่าน่าจะถูกปู่ยามะตำหนิเกี่ยวกับการต่อสู้ว่าทำไมปล่อยให้ตัวปู่ยามะเองต้องออกโรงมารับมือคู่ต่อสู้ด้วยตัวเองด้วยจากนั้นเคียวราคุก็ยกระดับการต่อสู้เข้าโหมดเอาจริงจนไล่ต้อนแอคคิวทรอนได้ แอคคิวทรอนถึงกับออกปากชมว่า"ยอดเยี่ยม น่าชื่นชมที่ยกระดับขวัญการต่อสู้ขึ้นมาได้" ตอนปู่ยามะเปิดศึกสู้เหล่ายมทูตก็รู้สึกว่าจะมีกำลังใจมากคาดว่าจะชนะได้แต่หลังจากที่ปู่โดนฟันแล้ว เหมือนกำลังใจหายโดยเฉพาะตัวเคียวราคุหลังจากรับรู้ว่าอาจารย์ที่เคารพรักและนับถืออย่างเป็นที่สุดพลาดท่าศัตรูทำให้เคียวราคุพลอยตกใจและเสียใจจนเปิดโอกาสให้แอคคิวทรอนใช้จังหวะที่เคียวราคุเผลอเข้าจัดการเคียวราคุ หลังจากควินซี่กลับไปแล้วเคียวราคุเข้ามาห้ามไม่ให้บรรดาหัวหน้าหน่วยทะเลาะกันหลังจากการสูญเสียหัวหน้าใหญ่และกล่าวเตือนสติกับบรรดาหัวหน้าหน่วย หลังจากนั้นไม่นานเคียวราคุก็ได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ของ 13 หน่วยพิทักษ์และหัวหน้าหน่วยที่ 1 แทน ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ที่เสียชีวิตไป เคียวราคุได้รับการไว้วางใจและมีคุณสมบัติทั้งในเรื่องการต่อสู้ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานมากกว่า100ปีอีกทั้งในเรื่องของความรู้เคียวราคุจัดว่าเป็นพวกที่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่าแจ่มแจ้งเป็นพวกใจเย็นคอยเตือนสติเหล่ายมทูตได้อย่างดีอาทิ ตอนย้อนอดีตที่ อุราฮาร่า คิสึเกะ ได้ส่งรองหัวหน้าหน่วยฮิโยริไปทำภารกิจแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอันตรายเกินกว่าจะรับมือได้อุราฮาระจึงจะตามไปสมทบแต่ถูกหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะห้ามไม่ให้ไปจึงทำให้ฮุราฮาระเกิดความหวั่นใจกลัวว่ารองหัวหน้าหน่วยตัวเองจะไม่ปลอดภัยเคียวราคุเห็นดังนั้นจึงได้เสนอให้รองหัวหน้าหน่วยตนเอง ยาโดมารุ ริสะ ตามไปสมทบเพื่อให้อุราฮาระได้เบาใจบ้างและได้เตือนอุราฮาระว่า"ไม่ต้องห่วงน่า ฮิโยริจังนะเก่งนะ ไม่ต้องทำหน้ากังวลขนาดนั้นก็ได้ ให้ความเชื่อใจแล้วก็รอนั่นก็เป็นหน้าที่หนึ่งของหัวหน้านะ" แล้วอีกตอนที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาดของเคียวราคุก็คือเคียวคารุน่าจะเป็นหัวหน้าหน่วยคนแรกหรือคนแรกๆที่สงสัยเกี่ยวกับไอเซ็น(อ้างอิงจากมังงะตอน315ตอนที่เคียวราคุเห็นไอเซ็นยังไม่นอนและเดินถือเอกสารทำงานอยู่ที่ระเบียงแล้วกล่าวว่า"คิดมากไปหรือเปล่านะ") สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเคียวราคุนั้นเป็นผู้ที่สามารถมองหรือการคาดการณ์เหตุการณ์ได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวจึงเป็นเหตุให้46ห้องวังกลางเลือกเคียวราคุเป็นหัวหน้าใหญ่(ในBleach13blades อ.คุโบะได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ชุนซุยได้เป็นหัวหน้าใหญ่ว่า"ผมค่อนข้างชอบตัวละคร ยามาโมโตะ นี้มากเลยนะครับ จนถึงตอนนี้ตัวตนของเขาเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก ตำแหน่งของเขาก็สำคัญอย่างมาก ถ้าเขาไม่อยู่แล้วผมสงสัยจริงๆว่ามันจะเป็นยังไง ผมก็เลยอยากจะวาดความรู้สึกนี้ออกมา ผมจึงให้เขาได้มีชีวิตจนกระทั่งภาคสุดท้ายและให้เขาตายในภาคสุดท้ายนี้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยากมากที่จะตัดสินใจว่าใครควรจะขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าใหญ่คนต่อไปแล้วผมก็เลือกซุนซุยให้รับหน้าที่นี้ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่มีขันติแบบเดียวกับเก็นริวไซแม้ว่าอุคิทาเกะจะคล้ายๆกันแต่ร่างกายเขาอ่อนแอ แล้วผมก็ได้ให้เขาไปทำอย่างอื่นแทนแล้วด้วย") โดยหน้าที่แรกที่เขาเลือกในฐานะหัวหน้าใหญ่คือการสอนเคมปาจิให้รู้ถึงศิลปะการฆ่าโดยมอบหน้าที่ให้กับ อุโนฮานะ เร็ตสึ ผู้ที่ถูกเรียกว่าเคมปาจิรุ่นแรก

เมื่อคราวที่เหล่าควินซี่ได้บุกมายังโซลโซไซตี้เป็นครั้งที่สองเคียวราคุในฐานะหัวหน้าใหญ่ไม่ได้ออกไปสู้ยังแนวหน้าด้วยแต่ปักหลักคอยสั่งการอยู่ที่หน่วยที่1 ขณะที่ควินซี่บุกมานั้นที่ปรึกษาของจูฮาบัสผู้นำของเหล่านักรบดวงดารา ยูแกรม ฮัชวาลต์ได้เข้ามาหาเคียวราคุยังที่ทำการหน่วยที่1 และได้แนะนำตัวเองและเคียวราคุก็ได้แนะนำตัวเองว่าเป็นหัวหน้าใหญ่กับไปพร้อมถามว่า "พอดีข้าพึ่งขึ้นรับตำแหน่งพวกเจ้าจึงอาจจะไม่รู้ หรือว่ารู้อยู่แล้วจึงมาที่นี่" ฮัชวาลต์จึงตอบกลับไปว่า "รู้อยู่แล้ว ข้ามาที่นี่ก็เพราะเหตุนั้น" หลังจากนั้นการต่อสู้ของเหล่ายมทูตก็ดำเนินไปทางฮัชวาลต์ก็ได้พยายามที่จะเข้ามาต่อสู้กับเคียวราคุแต่ก็ถูกวิถีมารของนานาโอะสกัดไว้จนการต่อสู้ของเรายมทูตกับควินซี่ผ่านไประยะหนึ่งฮัชวาลต์ได้กล่าวกับเคียวราคุว่า "ดูเหมือนการต่อสู้จะทัดเทียมกันแล้ว" เคียวราคุตอบกับไปว่า"เป็นการวิเคราะห์ที่ถ่อมตัวมากแต่ดูเหมือนพวกเราจะคิดคล้ายๆกัน ข้าเองก็รู้สึกแบบนั้น" ฮัชวาลต์จึงตอบกลับไปอีกว่า "ใช่...ไม่งั้นข้าคงไม่มาที่นี่ บทบาทของข้าคือการทำให้ตาชั่งเอียงมาข้างพวกเรา"(อ้างอิงจากมังงะตอน559 บทสนทนานี้แสดงให้เห็นว่าเคียวราคุนั้นนับว่ามีความสามารถเป็นอย่างสูงหรือด้วยความที่เป็นหัวหน้าใหญ่ของเหล่ายมทูตจนทำให้จูฮาบัสต้องส่งอัชวาลต์มาเพื่อจัดการเคียวราคุเพื่อให้เกิดความได้เปรียบมาทางเหล่าควินซี่) หลังจากนั้นเหมือนว่าการต่อสู้ที่แท้จริงระหว่างเคียวราคุกับฮัชวาลต์จะเริ่มนั้นตัวฮัชวาลต์ถูกเรียกตัวกับไปซะก่อนทำให้ทั้งสองไม่ได้สู้กัน หลังจากนั่นการต่อสู้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งจูฮาบัสบุกวังราชันย์และได้จัดการราชันย์วิญญาณสำเร็จทาง13หน่วยพิทักษ์ก็ได้รวบรวมกำลังบรรดาหัวหน้าหน่วย รองหัวหน้าหน่วยเพื่อจะบุกไปยังวังราชันย์เพื่อจัดการจูฮาบัสแต่การที่จะไปยังวังราชันย์ได้นั้นต้องสร้างประตูไปและต้องใช้แรงดันวิญญาณมหาศาลในการสร้างประตูขณะเดียวกันนั้นเองเคียวราคุก็ได้ไปหาไอเซ็นยังคุกใต้ดินเพื่อจะใช้ประโยชน์จากไอเซ็น

และในตอนที่13หน่วยพิทักษ์ขึ้นไปยังวังราชันย์เพื่อหยุดจูฮาบัสนั้นเคียวราคุนั้นได้เข้าปะทะกับลีเล่ บาร์โร(หัวหน้าเหล่าองครักษ์จูฮาบัส) ในการต่อสู้ช่วงแรกนั้นเคียวราคุได้ใช้ชิไคในการต่อสู้กับลีเล่ บาร์โรและได้เปรียบลีเล่อยู่จนทำให้ลีเล่จนมุมจนถึงขนาดที่ต้องยอมลืมดวงตาอีกข้างหนึ่งที่จะหลับไว้เสมอเพราะว่าจะได้ไม่เป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้(อ้างอิงจากมังงะตอนที่646)เมื่อลีเล่ลืมดวงตาทั้งสองขึ้นทำให้ใช้พลังของX-Axisได้ โดยพลังนั้นจะทำให้การโจมตีทุกอยากจะทะลุผ่านตัวลีเล่ได้หมดเมื่อลีเล่ได้เข้าโหมดเอาจริงทำให้สามารถไล่ต้อนเคียวราคุจนจนมุมได้ถึงขนาดที่เคียวราคุต้องใช้ที่พึ่งสุดท้ายของเขา นั่นคือ บังไคคาเตนเคียวคตสึ : คุโรมัสสึชินจู โดยเคียวราคุได้ใช้บังไคของเขาเข้าต่อสู้กับลีเล่จนเกือบฆ่าลีเล่ลงได้แต่ก็ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ลีเล่ที่เคียวราคุคิดว่าจัดการไปได้แล้วกลับยังไม่ตายและได้โจมตีใส่เคียวราคุโดยลีเล่พูดไว้ว่า"บังไคของยมทูตน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่จะฆ่าผู้สงสารของพระเจ้าผู้นี้ได้" จากนั้นเคียวราคุผู้ซึ่งจนมุมและไม่รู้ว่าจะฆ่าลีเล่ได้อย่างไรก็รู้สึกถอดใจคิดจะหนีจนรองหัวหน้าหน่วยนานาโอะตามมาพบเข้าก่อนทำให้เคียวราคุบอกเรื่องราวเกี่ยวกับดาบฟันวิญญาณของนานาโอะและร่วมมือกับนานาโอะจัดการลีเล่ บาร์โรลงได้(จัดการได้แต่ลีเล่ บาร์โรยังไม่ตายเพียงแค่วงแหวนที่อยู่บนหัวลีเล่หายไปไม่สามารถใช้พลังในฐานะของเทพได้)เป็นอันปิดฉากการต่อสู้ของหัวหน้าใหญ่ฝ่ายยมทูตกับหัวหน้าองครักษ์ของจูฮาบัสลง